2552/07/14

หน้ากากอนามัย...ใส่อย่างไรให้ห่างไกลไข้หวัด 2009

ได้อ่านบทความจากสภากาชาดไทยเลยพบกับบทความเกี่ยวกับการใส่หน้ากาอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อโรคหวัด 2009 อย่างปลอดภัยเลยสรุปมาฝากกันค่ะ นพ.สมชัย นิจพานิช รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เล่าถึงการใช้หน้ากากอนามัยป้องกันอย่างถูกต้องว่า การใช้หน้ากากอนามัย มีไว้สำหรับผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด และ ผู้เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจใช้ เพราะหากผู้ป่วยไอจามในที่ชุมชน จะทำให้ผู้อื่นติดได้ เพราะจากผลวิจัย พบว่าการที่ผู้ป่วยไอ 1 ครั้ง สามารถแพร่เชื้อได้ไกลถึง 1 เมตร ประเทศไทยเริ่มใช้หน้าการอนามัยครั้งแรก เมื่อ 90 ปีก่อน เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปน ส่วนในประเทศไทย สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ได้รับสั่งให้นำมาใช้ทางการแพทย์เมื่อ พ.ศ. 2463

ขั้นตอนการทำหน้ากากอนามัย
1. นำผ้าที่เตรียมไว้มาพับครึ่งตามความยาวผ้าแล้วพับจับจีบทวิช 1 นิ้ว ตรงกลางผ้ากลัดด้วยหมุด หรือ เนาตรึงไว้ และ ทำอีกชิ้นเช่นเดียวกัน
2. นำผ้าที่พับไว้มาวาง โดยหันด้านนอกขึ้น และนำยางยืดมาวางที่มุมผ้าด้านกว้างข้างบน และข้างล่าง ด้านละ 1 เส้น กลัดเข็มหมุด หรือ เนาตรึงไว้
3. นำผ้าที่พับไว้อีกชั้นมาวางซ้อนกับผ้าชิ้นแรกที่ตรึงยางยืดไว้ โดยหันผ้าด้านนอกชนกัน แล้วเย็บจักร หรือ ด้นถอยหลังรอบผ้าสี่เหลี่ยม ให้ห่างจากริมผ้า ด้านละครึ่งเซนติเมตร โดยเว้นช่องว่างไว้กลับตะเข็บ ประมาณ 1 นิ้ว
4. ขลิบผ้าตรงมุมทั้ง 4 มุม ให้ใกล้กับรอยเย็บ เพื่อเวลากลับตะเข็บจะได้เรียบร้อยสวยงาม
5. สอยปิดช่องว่างที่เว้นไว้ให้เรียบร้อย

สำหรับการระบาดของโรคหวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ผู้ป่วยควรที่จะสวมหน้ากากป้องกันการแพร่เชื้อไม่ให้ผู้อื่นได้รับเชื้อ โดยก่อนที่จะใส่หน้ากากต้องล้างมือให้สะอาดก่อน และเมื่อทำการสวมใส่ ควรหลีกเลี่ยงให้มือไปสัมผัสกับเนื้อผ้าบริเวณด้านในที่แนบกับจมูกและปาก เพราะในมืออาจมีเชื้อโรคทำให้เข้าสู่ร่างกายได้ นพ.สมชัย กล่าวอีกว่า ควรใส่ให้ผ้าปิดตั้งแต่จมูกจนถึงคาง เพื่อป้องกันเชื้อร้ายที่แฝงตัวมากับอากาศเข้าสู่ร่างกาย ขณะเดียวกัน หลายคนอาจเกรงกลัวจนต้องดึงสายรัดให้แน่นมากที่สุดนั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี เพราะทำให้หายใจไม่สะดวก ผู้ใส่ควรดัดเหล็กที่เป็นโครงให้เข้ากับดั้งจมูกให้แนบสนิท เนื่องจากเป็นจุดเสี่ยง ที่เชื้อโรคจะเข้าสู่จมูกได้ง่าย เมื่อใส่หน้ากากอนามัยแล้ว ไม่ควรล้วงหรือเกาบริเวณที่ผ้าปิดอยู่ จะทำให้เชื้อโรคที่ติดมากับมือเข้าไปภายใต้หน้ากากอนามัยได้ หน้ากากอนามัยสามารถประดิษ์ขึ้นมาเองได้และสามารถช่วยป้องกันได้ถึง 80% โดยใช้วัสดุเช่น ผ้าสาลู ผ้าฝ้าย ผ้ายืด ผ้าอ้อมเด็ก ผ้าถุง เป็นต้น ทำให้ประหยัดเงินได้อย่างมากเพราะไม่ต้องเสียเงินซื้อบ่อย ๆ หน้ากากที่ผลิตเองสามารถซักและนำมาใช้ใหม่ได้




ที่มา
1. 2552, หน้ากากอนามัย...ใส่อย่างไรให้ห่างไกลไข้หวัด 2009. เดลินิวส์, 14 กรกฏาคม 2552.
2. 2552, การใส่หน้ากากอนามัยให้ได้ผล, [online], Available: http://www.youtube.com/watch?v=zLIbxBS2pWU&feature=player_embedded [15 กรกฏาคม 2552].

0 ความคิดเห็น: